Tag Archives: ຄວາມຮັກ

อาการ “ดีเกินไป” or so called Nice guy syndrome

อาการดีเกินไป (อังกฤษ: Nice guy syndrome) เป็นคำจำกัดความทางจิตวิทยาบรรยายลักษณะของเพศชาย ที่มีปัญหาในการมีคู่ โดยมีที่มาจากคำพูดของเพศตรงข้ามว่า “ดีเกินไป” (ตัวอย่าง เธอเป็นคนดีเกินไป แต่เราไม่สามารถเป็นแฟนกันได้ มาคบกันเป็นเพื่อนเถอะ) ซึ่งเกิดจากความรู้สึกของเพศตรงข้ามเปรียบเทียบลักษณะ “ผู้ชายที่ดีเกินไป” ไม่เข้าใจการเติบโต การวางตัวต่อเพศตรงข้าม และเรื่องราวของการมีชีวิตคู่ รวมไปถึงไม่สามารถสร้างความสัมพันธ์โรแมนติค

ลักษณะของบุคคลที่อยู่ในอาการดีเกินไป ส่วนมากจะมีจิตใจดีงาม ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มักจะมีปัญญาสูงกว่าบุคคลทั่วไป เชื่อมั่นในความคิดตัวเอง ในขณะเดียวกันก็ขาดความเข้าใจในความคิดของผู้หญิง ขาดความเข้าใจในเรื่องของสังคมมนุษย์ และในหลาย ๆ ครั้งจะขาดความมั่นใจในเรื่องความรัก การแสดงออกจะออกมาในลักษณะ การช่วยเหลือหรือเสนอตัวช่วยเหลือ ไม่ว่าเพศตรงข้ามจะต้องการหรือไม่ แสดงให้เห็นถึงการกระทำที่ตอบสนองความต้องการของตัวเอง (ที่ต้องการแสดงออก โดยการช่วยเหลือ) การพูดจาจะแสดงออกมาในลักษณะการฟังมากกว่าการพูด และเมื่อใดที่เพศตรงข้ามต้องการถอนตัวออกจากความสัมพันธ์ อาการทางจิตใจจะทำให้เกิดเข้าใจที่ตัดพ้อต่อว่าเพศตรงข้าม และในหลายๆ เหตุการณ์ถ้าเพศตรงข้ามเกิดความสัมพันธ์ใหม่กับผู้ชายคนอื่น ที่มีลักษณะท่าทางไม่ดี ผิดแปลกไปจากตน จะทำให้เกิดความตัดพ้อต่อว่าเพศตรงข้าม และฝังความคิดว่า “ผู้หญิงในโลกรักแต่คนไม่ดี” ในขณะที่เพศตรงข้ามต้องการบุคคลที่สามารถวางตัวในสังคม และมีความมั่นคงทางอารมณ์

ทฤษฎีขั้นบันไดของความรักสนับสนุนแนวความคิดของอาการดีเกินไปว่า ผู้หญิงโดยปกติจะถูกดึงดูดด้วย ลักษณะความมั่นคงทางด้านจิตใจ ฐานะ และความเป็นตัวของตัวเองของเพศตรงข้าม มากกว่ารูปร่างหน้าตา ในขณะเดียวกับที่ผู้ชายส่วนมากจะถูกดึงดูดด้วย รูปร่างและหน้าตาของเพศตรงข้าม มากกว่าปัจจัยอื่น

ถึงแม้ว่าอาการดีเกินไป จะไม่ถูกนับเป็นอาการทางจิต แต่ผลที่เกิดขึ้นกับผู้ชายที่มีอาการ จะทำให้เกิดความท้อแท้ และหมดหวังในการเติบโตและเข้าใจลักษณะโครงสร้างของสังคมมนุษย์ วิธีแก้อาการเหล่านี้ แนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญทางการเข้าใจผู้คนและสังคม โดยการเปลี่ยนแนวการดำรงชีวิต เช่น การออกไปทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ เรียนรู้ลักษณะของสังคมรอบตัว ส่งผลให้เกิดความรู้ที่เปิดกว้างขึ้นในการเรียนรู้สังคม การวางตัวในสังคม และการวางตัวต่อเพศตรงข้ามตามมา เว็บไซต์จัดหาคู่ได้นำทฤษฎีนี้มาช่วยเหลือ ผู้ชายที่มีอาการเหล่านี้

Wiki

ບໍ່ເຫັນຝຸ່ນ

ມື້ນຶ່ງເກີດມີລົມແຮງໆ ພັດໄປໃກ້ເຈົ້າຫຼາຍເກີນໄປ
ຂ້ອຍກໍຮູ້ໂຕວ່າລົບກວນຈິດໃຈ ເຮັດໃຫ້ເຈົ້າລຳຄານ
ຄົນມັນຮັກ ກໍເລີຍມາຕາມມາໃສ່ໃຈ
ກໍຄົນໃນໃຈຄົນດຽວຂອງຂ້ອຍຄືເຈົ້າ
ແຕ່ເຈົ້າບໍ່ເບິ່ງເສດຝຸ່ນຄືຂ້ອຍ
ຢູ່ໃກ້ໆຍັງລຳຄານໜັກໜາ
ຍິ່ງມາລອຍໃກ້ຊິດສາຍຕາ
ມີແຕ່ເຮັດໃຫ້ຂຸ່ນເຄືອງ
ຖ້າຫາກມື້ໃດເຂົ້າໃກ້ເກີນໄປ
ຢ່າພັກໃສຂ້ອຍພຽງຕ້ອງການແຕ່ພຽງ
ລັກມາລອຍລັກມາຂ້າງຄຽງ
ບໍ່ໄດ້ຫວັງໃຫ້ເຫັນ ໃນສາຍຕາ

ອັດຕາຄວາມໜ້າຈະເປັນຂອງຄົນຈຳນວນຫຼາຍ

ກຳລັງຄິດເລື່ອງນຶ່ງ ຄືເລື່ອງຄວາມໜ້າຈະເປັນໄປໄດ້ຂອງພຶດຕິກຳຄົນຈຳນວນຫຼາຍໃນສັງຄົມ

ເລື່ອງທີ່ຄິດມັນຄອບຄຸມເຖິງຫຼາຍໆແງ່ມຸມຂອງຄວາມຄິດຄົນທີ່ດຳເນີນຢູ່ ຄິດວ່າທິດສະດີນີ້ມັນຄ້າຍໆກັບການເກັບສະຖິຕິຕົວຢ່າງຂອງຄົນຈຳນວນຫຼາຍ ແລ້ວເບິ່ງອັດຕາຄວາມໜ້າຈະເປັນຂອງກຸ່ມຄົນທີ່ມີລັກສະນະ (pattern) ເຫຼົ່ານັ້ນຂອງສາດ physiognomy ຫຼື feng shui (ທີ່ເນັ້ນໄປເລື່ອງຕຶກອາຄານບ້ານເຮືອນ) ຂອງຄົນຈີນ ເຊິ່ງມັນກໍອາດຈະຖືກ ຫຼືບໍ່ຖືກ ແຕ່ສ່ວນໃຫຍ່ຈະມີແນວໂນ້ມໄປໃນທາງນັ້ນໆ

ມີເລື່ອງນຶ່ງທີ່ມັກສັງເກດແມ່ນພຶດຕິກຳຂອງການເລືອກຄູ່ຂອງມະນຸດ ຫຼັງຈາກທີ່ສັງເກດມາໄດ້ໄລຍະນຶ່ງ ເຫັນວ່າໂດຍທົ່ວໄປແລ້ວ ມີແນວໂນ້ມທີ່ຈະຄາດເດົາໄດ້ ເຖິງວ່າອັດຕາໂຕແປມັນຈະມີຈຳນວນຫຼາຍກໍຕາມ ແຕ່ມັນພັດມີໂຕແປຫຼັກໆ ບໍ່ຈັກຢ່າງເທົ່ານັ້ນເອງ ເພາະເລິກໆ ແລ້ວສິ່ງທີ່ຝັງຢູ່ລົງໄປມັນຢູ່ໃນ gene ທີ່ສືບທອດກັນມາຂອງທັງຊາຍແລະຍິງ ຄືພື້ນຖານທີ່ເຮັດໃຫ້ລັກສະນະຄວາມເປັນໄປໄດ້ຕ່າງໆ ມັນໂດດເດັ່ນຈົນສາມາດຈັບທາງໄດ້

ຢ່າງນຶ່ງທີ່ສັງເກດຄື ອັດຕາຄວາມໜ້າຈະເປັນໄປໄດ້ ຂອງການແຍກທາງລະຫວ່າງຄູ່ຮັກ ທີ່ມີການສະແດງອອກເຖິງຄວາມຮັກລະຫວ່າງກັນແລະກັນ ໃຫ້ກັບສາທາລະນະໄດ້ຮັບຮູ້ ຈາກທີ່ສັງເກດມາ ຄິດວ່າເປັນກໍລະນີທີ່ພົບເຫັນໄດ້ງ່າຍ ເກັບຂໍ້ມູນໄດ້ງ່າຍ ແຕ່ທ້າຍທີ່ສຸດແລ້ວ ການຈະເກັບຂໍ້ມູນຈົນສາມາດອ້າງອີງໄດ້ແບບສາດຂອງຈີນນັ້ນ ຕ້ອງໃຊ້ຈຳນວນໂຕຢ່າງນັບພັນນັບໝື່ນເລີຍ ເຊິ່ງບໍ່ໜ້າຈະເປັນໄປໄດ້ໃນຊ່ວງຊີວິດດຽວ ເອ້ະ… ຫຼືວ່າໄປສຶກສາ physiognomy ດີກວ່າ?