Category Archives: ຊີວິດ

ປະຕິທິນ 2014

ບໍ່ແມ່ນປະຕິທິນເຕັມໆ ເດີ ເປັນການຄັດຈ້ອນເອົາມື້ໃນປະຕິທິນມາສະແດງ ວ່າມີວັນພັກມື້ໃດແດ່ (ບາງມື້ກໍບໍ່ໄດ້ພັກ)

ຄລິກເຂົ້າໄປອ່ານກັນເລີຍ

Continue reading ປະຕິທິນ 2014

ຫຼຸດຄວາມໄວ = ຫຼຸດຄວາມສ່ຽງ

ມື້ກີ້ເບິ່ງຂ່າວມາ ເຂົາເຈົ້າເວົ້າເລື່ອງອຸປະຕິເຫດທາງລົດ ເພິ່ນບອກວ່າ:

ຄວາມໄວ 60km/h ແຮງຊົນເທົ່າກັບຕົກຈາກບ່ອນສູງ 14 ແມັດຫຼືຕຶກສູງ 5 ຊັ້ນ
ຄວາມໄວ 80km/h ແຮງຊົນເທົ່າກັບຕົກຈາກບ່ອນສູງ 25 ແມັດຫຼືຕຶກສູງ 8 ຊັ້ນ
ຄວາມໄວ 100km/h ແຮງຊົນເທົ່າກັບຕົກຈາກບ່ອນສູງ 39 ແມັດຫຼືຕຶກສູງ 13 ຊັ້ນ
ຄວາມໄວ 120km/h ແຮງຊົນເທົ່າກັບຕົກຈາກບ່ອນສູງ 56 ແມັດຫຼືຕຶກສູງ 19 ຊັ້ນ

ມະນຸດໃຊ້ເວລາ 0.75 ວິນາທີໃນການຢຽບເບຣກໄດ້ຢ່າງມີປະສິດທິພາບ ໄລຍະເວລາທີ່ເສຍໄປນີ້ເອີ້ນວ່າ “ໄລຍະເວລາຂອງປະຕິກິລິຍາຕອບສະໜອງ” ເຊິ່ງຈະປ່ຽນໄປຕາມບຸກຄົນ ຄວາມໄວລົດ ແລະຮ່າງກາຍ ຫຼືສະໝອງໃນຂະນະນັ້ນໆ (ເຊັ່ນ: ອ່ອນເພຍ, ເມື່ອຍ ຫຼືມຶນເມົາຈາກລິດຢາ ຫຼືເຫຼົ້າ) ເຮັດໃຫ້ປະສິດທິພາບການຕອບສະໜອງເສຍໄປ

ສູດຄຳນວນແມ່ນ ຄວາມໄວ + ປະຕິກິລິຍາຕອບສະໜອງຕ່ຳ (ເຫຼົ້າ, ເຫງົານອນ, ໂທລະສັບ) = ຊີວິດສັ້ນ 🙁

ສະນັ້ນ ຫຼຸດຄວາມໄວ = ຫຼຸດຄວາມສ່ຽງ

ກ່ຽວກັບວິໄນ

ໄປເຫັນມາໃນພັນທິບ ມີໃນ http://ihears.blogspot.com/2013/11/blog-post_8.html ນຳ ລອງອ່ານກັນເບິ່ງ

สมัยผมเป็นผู้บริหารสนามบิน…อยู่ต่างประเทศ…
เจ้านายฝรั่ง…เดินมาชี้หน้าด่าผมว่า…
มึงเป็นผู้บริหารที่เฮงซวยมาก…
ผมตกใจ…แต่ก็หัวเราะ…แล้วก็สวนคำทันทีทันใดว่า…
มึงผิดแล้ว…นี่แสดงว่ามึงไม่รู้จักกู…
ทุกคนรู้ว่า……
กูคือผู้บริหารที่เก่งที่สุด…
ประสบความสำเร็จสูงที่สุด…
ในรุ่นเดียวกัน…ที่เข้ามาทำงานพร้อมกัน…

มันบอกว่า…
กูไม่รู้ว่า…มึงสำเร็จยิ่งใหญ่ขนาดไหน…
แต่ในสายตากู…มึงคือผู้บริหารที่เฮงซวยที่สุด…
เฮงซวยยังไง…? ไหนว่ามาซิ…
มึงเป็นผู้บริหาร…ที่ขาดวินัย…วินัยอ่อนมาก…

นี่ถ้าเป็นระเบียบในสนามรบ…
ทหารที่ขาดวินัย…เขาจะเอาไปยิงทิ้ง…
ขืนเสี่ยงใช้ทหารประเภทนี้…จะทำให้กองทัพเสียหาย…
และพ่ายแพ้ในสงครามได้…

ผมฟังแล้วตกใจ…
แสดงว่าคนที่ขาดวินัย…เฮงซวย…และไร้ค่ามาก…
ผมก็ถามต่อว่า…ผมขาดวินัยยังไง..?
มันบอกว่า…
นี่เป็นจุดอ่อนของผู้บริหารไทยทุกคน…
ที่มันมองเห็นคือ…เวลาที่ลูกน้องทำผิด…
ยืนดูเฉย…ไม่เรียกมาว่ากล่าวตักเตือน…
ผมบอกว่า…มันเป็นความผิดเล็กน้อย…หยุมหยิมเกินไป…
มันบอกว่า…วันนี้เป็นความผิดเล็กน้อย…
แต่พรุ่งนี้…มันจะใหญ่ขึ้น…
และถ้ายังไม่เตือน…
เดือนหน้ามันจะใหญ่ขึ้น 30 เท่า…

และถ้ายังไม่เตือน…
อีก 3 เดือน…มันจะใหญ่มาก…เป็น 100 เท่า…

จนทำให้หลายคนเดือดร้อน…รวมทั้งมึงด้วย…
และเมื่อถึงวันนั้น…มีคนไปเตือน…ไปลงโทษ…ไอ้คนทำผิด…
มันจะถามว่า…
กูทำผิดอะไร…
กูทำแบบนี้มา 3 เดือนแล้ว…ไม่เห็นมีใครว่าอะไร…
มึงเป็นใคร…มาเสือกอะไรเรื่องของกู…เจ้านายกูยังไม่ยุ่ง

แล้วหลังจากนั้น…ก็ไม่มีใครว่ากล่าวตักเตือนมันได้…
จนกว่าจะเกิดเหตุใหญ่โต…จนควบคุมไม่อยู่…
เดือดร้อนกันทั้งบริษัท…หายนะกันทั่วทั้งประเทศ…
ผมฟังแล้วยิ้มๆ…นึกเถียงในใจว่า…
เหตุการณ์แบบนี้…ไม่มีทางเกิดขึ้นกับกูหรอก…เพราะกูเก่ง…

หลังจากนั้นไม่นาน…ประมาณ 3 หรือ 4 เดือน…
ลูกน้องของผม…ขับรถ…ชนเครื่องบิน…
นำหายนะมาสู่ผม…และบริษัท…ชนิดที่รับมือไม่ทัน…
สาเหตุเป็นเพราะ…
ขาดวินัย…
เหมือนกับที่เจ้านายฝรั่ง…เคยด่าผมไว้…เปี๊ยบเลย…

เรื่องมีอยู่ว่า…
ทุกเช้าก่อนนำรถออกไปทำงานในสนามบิน…
มันต้องเช็คความพร้อมของรถ 25 รายการ…
ตาม Check list ที่เขาทำไว้…
แต่คนไทย…มันเก่งมาก… 25 ข้อ…เช็คเสร็จภายใน 1 นาที…
ทำเครื่องหมายถูก…ทั้ง 25 ข้อ…ภายใน 1 นาที…
โดยไม่ต้องดูรถ…แล้วเซ็นชื่อกำกับ…แสดงว่า…เช็คแล้ว…

ไม่ต้องเช็คหรอกเจ้านาย…เช็คทำไมทุกวัน…เมื่อวานก็เช็คแล้ว…
เมื่อคืนนี้…รอบกลางคืนก็เช็คแล้ว…รถไม่มีปัญหาหรอก…

ทำไมถึงต้องเช็คทุกวัน…มันบ่อยเกินความจำเป็น…
ผมก็พยักหน้าเห็นด้วย…

พอรถชนเครื่องบิน…ก็ทำการสอบสวน…
ปรากฏว่า…รถคันนี้…ไม่ได้เช็คสภาพนานกว่า 6 เดือนแล้ว…
แต่มันมีบันทึกว่า…เช็ควันละ 2 ครั้งทุกวัน…ตลอด 6 เดือนเต็ม…
เพราะมันใช้วิธีเช็คแบบเดียวกัน…คือขีดเฉพาะ Check list…
แต่ไม่ได้ตรวจสภาพรถจริงๆ…

จากเหตุการณ์วันนั้น…ผู้เกี่ยวข้องถูกลงโทษกันถ้วนหน้า…
ผมในฐานะผู้บริหาร…ที่รับผิดชอบในวันนั้น…
เกือบถูกไล่ออก…
ดีแต่ว่า…กรรมเก่าที่ทำไว้ดี…
คือประวัติและผลงานของผมยอดเยี่ยม…มาตลอด…
เลยช่วยให้รอดไปได้่ครั้งหนึ่ง…
คนไทยทั้งหมด…ที่ทำงานที่นั่น…
เสียศักดิ์ศรี…อย่างรุนแรง…

พวกฝรั่งมองคนไทย…ด้วยสายตาดูถูกเหยียดหยาม…
ว่าเป็นพวก…ไม่ได้เรื่อง…เฮงซวย…ไม่มีวินัย…
ทำผิดคนเดียว…
ถูกประนามกันทั่วประเทศ…

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา…
ผมให้ความสำคัญของเรื่องวินัย…เป็นอันดับหนึ่ง…

เห็นใครทำผิดกฏระเบียบ…ผิดวินัย…ผมเข้าไปเตือน…ทันที…
โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย…
ไม่ว่าความผิดที่ทำนั้น…มันจะเล็กน้อยแค่ไหน…
เพื่อยุติการทำผิด…ให้หยุดอยู่แค่ตรงนั้น…ไม่ขยายวงต่อ…
และได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง…ในการทำครั้งต่อไป…

แล้วผมก็นำบทเรียนที่ล้ำค่าที่สุดในชีวิตนี้…
มาเป็นแบบอย่าง…ในการเลี้ยงลูก…
ไม่ว่าลูกจะทำผิดเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน…
ผมจะรีบเข้าไปเตือน…และกำชับว่า…
อย่าทำแบบนี้อีกเด็ดขาดนะลูก…
ทำให้ลูก…เป็นคนที่มีวินัยเข้มข้น…
อะไรไม่ดี…อะไรไม่ถูกต้อง…ไม่ทำ…
ผู้คนที่อยู่รอบข้าง…ไม่มีใครเดือดร้อน…
ชีวิตครอบครัวมีความสุขสมบูรณ์…

ອັດຕາຄວາມໜ້າຈະເປັນຂອງຄົນຈຳນວນຫຼາຍ

ກຳລັງຄິດເລື່ອງນຶ່ງ ຄືເລື່ອງຄວາມໜ້າຈະເປັນໄປໄດ້ຂອງພຶດຕິກຳຄົນຈຳນວນຫຼາຍໃນສັງຄົມ

ເລື່ອງທີ່ຄິດມັນຄອບຄຸມເຖິງຫຼາຍໆແງ່ມຸມຂອງຄວາມຄິດຄົນທີ່ດຳເນີນຢູ່ ຄິດວ່າທິດສະດີນີ້ມັນຄ້າຍໆກັບການເກັບສະຖິຕິຕົວຢ່າງຂອງຄົນຈຳນວນຫຼາຍ ແລ້ວເບິ່ງອັດຕາຄວາມໜ້າຈະເປັນຂອງກຸ່ມຄົນທີ່ມີລັກສະນະ (pattern) ເຫຼົ່ານັ້ນຂອງສາດ physiognomy ຫຼື feng shui (ທີ່ເນັ້ນໄປເລື່ອງຕຶກອາຄານບ້ານເຮືອນ) ຂອງຄົນຈີນ ເຊິ່ງມັນກໍອາດຈະຖືກ ຫຼືບໍ່ຖືກ ແຕ່ສ່ວນໃຫຍ່ຈະມີແນວໂນ້ມໄປໃນທາງນັ້ນໆ

ມີເລື່ອງນຶ່ງທີ່ມັກສັງເກດແມ່ນພຶດຕິກຳຂອງການເລືອກຄູ່ຂອງມະນຸດ ຫຼັງຈາກທີ່ສັງເກດມາໄດ້ໄລຍະນຶ່ງ ເຫັນວ່າໂດຍທົ່ວໄປແລ້ວ ມີແນວໂນ້ມທີ່ຈະຄາດເດົາໄດ້ ເຖິງວ່າອັດຕາໂຕແປມັນຈະມີຈຳນວນຫຼາຍກໍຕາມ ແຕ່ມັນພັດມີໂຕແປຫຼັກໆ ບໍ່ຈັກຢ່າງເທົ່ານັ້ນເອງ ເພາະເລິກໆ ແລ້ວສິ່ງທີ່ຝັງຢູ່ລົງໄປມັນຢູ່ໃນ gene ທີ່ສືບທອດກັນມາຂອງທັງຊາຍແລະຍິງ ຄືພື້ນຖານທີ່ເຮັດໃຫ້ລັກສະນະຄວາມເປັນໄປໄດ້ຕ່າງໆ ມັນໂດດເດັ່ນຈົນສາມາດຈັບທາງໄດ້

ຢ່າງນຶ່ງທີ່ສັງເກດຄື ອັດຕາຄວາມໜ້າຈະເປັນໄປໄດ້ ຂອງການແຍກທາງລະຫວ່າງຄູ່ຮັກ ທີ່ມີການສະແດງອອກເຖິງຄວາມຮັກລະຫວ່າງກັນແລະກັນ ໃຫ້ກັບສາທາລະນະໄດ້ຮັບຮູ້ ຈາກທີ່ສັງເກດມາ ຄິດວ່າເປັນກໍລະນີທີ່ພົບເຫັນໄດ້ງ່າຍ ເກັບຂໍ້ມູນໄດ້ງ່າຍ ແຕ່ທ້າຍທີ່ສຸດແລ້ວ ການຈະເກັບຂໍ້ມູນຈົນສາມາດອ້າງອີງໄດ້ແບບສາດຂອງຈີນນັ້ນ ຕ້ອງໃຊ້ຈຳນວນໂຕຢ່າງນັບພັນນັບໝື່ນເລີຍ ເຊິ່ງບໍ່ໜ້າຈະເປັນໄປໄດ້ໃນຊ່ວງຊີວິດດຽວ ເອ້ະ… ຫຼືວ່າໄປສຶກສາ physiognomy ດີກວ່າ?